Occipital ( back of head ) Augmentation

Occipital ( back of head ) Augmentation

ศัลยกรรมเสริมหัวทุย (หัวด้านหลัง)

สำหรับคนไข้ที่มีปัญหาศีรษะด้านหลังไม่เต็มหรือแฟบ ทำให้ไม่มั่นใจ ปัจจุบันการแพทย์ได้คิดค้นช่วยแก้ไขปัญหาบุคคลที่ศีรษะแฟบ ไม่ได้รูป ไม่สวย ซึ่งการศัลยกรรมนี้ไม่เป็นอันตราย และยังเป็นการศัลยกรรมไม่มีขั้นตอนอะไรยุ่งยาก ใช้เวลาเพียง 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เท่านั้น และ แผลจะมองไม่เห็นเลย เพราะทำบริเวณด้านหลังศรีษะ

คุณต้อม นิรันดร์

ความประทับใจจาก คุณต้อม นิรันดร์

มาฟังP’NOI tokaiclinic เล่าเรื่องเสริมหัวทุย (wow!!!) By. Dr.PAT 

ข้อดีของการศัลยกรรมหัวทุย

  • สามารถทำได้ทั้งบริเวณด้านหลังหัว และที่หน้าผาก
  • การผ่าตัดใช้เวลาไม่นาน
  • ใช้เวลาพักฟื้นเพียงสั้นๆ
  • แทบมองไม่เห็นแผลเป็น

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

เนื่องจากไม่ได้วางยาสลบแบบยาชาทั้งตัว จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นอันตราย ต่อร่างกาย ก่อนการศัลยกรรมหากกังวลสามารถรับการเอ็กซเรย์ก่อนทำศัลยกรรมได้

หลังการทำศัลยกรรมใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1 สัปดาห์

โดยก่อนการทำศัลยกรรมจะได้ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมเฉพาะศีรษะด้านหลังและพูดคุยรายละเอียดการผ่าตัด จะมีการเปรียบเทียบรูปศีรษะปัจจุบันกับรูปศีรษะหลังทำศัลยกรรมเพื่อจะได้เลือกขนาด ความสูงให้เหมาะสม

ผลข้างเคียงและอาการแทรกซ้อน

อาการอักเสบ

อาการอักเสบแทบจะไม่ปรากฏเลย

อาการเลือดซึม

วิธีการศัลยกรรมไม่ได้ซับซ้อนยุ่งยาก จึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอาการเลือดซึม

อาการมึนศีรษะ

หลังการผ่าตัดอาจมีความรู้สึกมึนศีรษะเล็กน้อย แต่เมื่อพักสัก 1-2 ชม. อาการจะดีขึ้นเอง

ผมร่วง

บางคนอาจกังวลเรื่องผมร่วงหลังทำศัลยกรรมแบบนี้ ซึ่ง 95% บริเวณที่ทำศัลยกรรมไม่พบปัญหาผมร่วง นอกจากนั้นยังไม่ทิ้งรอยแผลไว้ให้กังวล ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลปัญหาอาการผมร่วง

การดูแลร่างกายหลังทำศัลยกรรม

วันที่รับการทำศัลยกรรม

  1. หลังการผ่าตัดศัลยกรรม อาจต้องนอนพักที่ห้องพักฟื้น 1-2 ชั่วโมง
  2. หลังการผ่าตัดศัลยกรรม อาจมีอาการเวียนศรีษะเล็กน้อย
  3. ต้องเตรียมหมวกมาเพื่อสวมใส่เวลากลับที่พัก บ้าน หรือ โรงแรมและเพราะหลังการผ่าตัดจะมีผ้าพันแผลพันศรีษะดังนั้น การเตรียมหมวกอาจเลือกขนาดที่ให้ใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย
  4. การดูแลตัวเองด้านอื่นๆก็ทานยาตามที่แพทย์สั่ง
  5. หากมีอาการบวมและอยากให้ยุบ สามารถแจ้งแพทย์ให้ฉีดยาลดการบวมได้

หลังวันผ่าตัดวันที่ 1

ศรีษะบริเวณที่ได้รับการศัลยกรรมจะมีอาการบวมขึ้นเล็กน้อย บริเวณต้นคอและท้ายทอยจะมีอาการเขี้ยวช้ำปรากฎให้เห็นอยู่บ้าง

หลังวันผ่าตัดวันที่ 2

อาการบวมอาจจะเพิ่มมากกว่าในวันแรกเล็กน้อย แต่จะไม่บวมมาถึงบริเวณใบหน้า ให้หมั่นใช้ที่ประคบเย็น ประคบจะช่วยลดอาการบวมได้

หลังวันผ่าตัดวันที่ 3-4

อาการบวมจะเริ่มยุบลงบ้าง ส่วนรอยช้ำก็จะค่อยๆจางลง ซึ่งในแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน

หลังวันผ่าตัดวันที่ 5

ถ้าอาการบวมยุบลงได้เยอะแล้ว สามารถสระผมได้ ทั้งนี้จะต้องได้รับคำอนุญาตจากแพทย์ ก่อนว่าสามารถสระผมได้หรือไม่ ในวันที่ 5 อาการบวมจะยุบลงหายไปประมาณ 50 เปอร์เซนต์

หลังวันผ่าตัดวันที่ 6

อาการบวมจะยุบลง จนตัวเราสามารถรู้สึกได้เอง ว่าอาการบวมยุบลงแล้ว และถ้ารอยช้ำบริเวณต้นคอยังมีอยู่ สามารถเปลี่ยนมาประคบร้อนเพื่อให้รอยช้ำจางหายไวเร็วยิ่งขึ้น

หลังวันผ่าตัดวันที่ 7

ถ้าอยากให้รอยช้ำหายเร็วยิ่งขึ้น และอาการบวมจางหายเร็วมากขึ้น ให้หมั่นประคบร้อน จะช่วยได้เยอะมาก นอกจากนี้ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ถ้าสระผม หลังสระให้ใช้ไดร์เป่าผมเป่าให้แห้ง อย่าปล่อยให้ศรีษะชื้น

หลังวันผ่าตัดวันที่ 7-10

แพทย์จะนัดเข้าไปตัดไหม ซึ่งอาการบวมจะลดไปประมาณ 80 เปอร์เซนต์ หลังจากนั้นก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติทุกอย่าง ศรีษะจะค่อยๆเข้ารูปและอาการบวมจะค่อยๆจางหายไปเองในที่สุด

รูปภาพประกอบแนะนำการดูแลหลังผ่าตัดเสริมหัวทุย